4 ทริคแต่งร้านยังไงให้ปังปุริเย่

หากใครคิดจะมีร้านอาหารสักร้าน นอกจากจะต้องเพียบพร้อมในเรื่องของต้นทุน การลงทุน ที่ทำกิน ระบบการจัดการ หัวใจสำคัญอีกอย่างเลยก็คือ การคิดคอนเซ็ปต์ของทางร้าน ว่าจะทำอย่างไรถึงจะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านของเรา เป็นที่น่าจดจำ ไปจนถึงการบอกต่อ ๆ กัน ซึ่งการสรรหาของตกแต่ง ไปจนถึงช่างผู้รับเหมา เพื่อให้ร้านออกมาดูแปลกไม่ซ้ำใคร โดดเด่น ใครมองก็ต้องสะดุดตา วันนี้ทาง ranmarang.com จะมาฝาก 4 ทริคแต่งร้านยังไงให้ปังปุริเย่ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนที่อยากมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตัวเองกันนะครับ แต่ต้องการความแหวกแนว ไม่เหมือนใคร

4 ทริคแต่งร้านยังไงให้ปังปุริเย่

1. ชื่อร้าน ขายอาหารประเภทไหน ลองคิดชื่อหลาย ๆ ชื่อที่ต้องทำอย่างไรให้ดูแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร อาจจะพลิกแพลงหรือนำมาสนธิกันก็ได้

                      เช่น อยากทำร้านอาหารตามสั่งสไตล์อบอุ่น แต่มีพนักงานร้านเป็นเด็กออทิสติกที่ต้องการฝึกอาชีพ อาจจะคิดว่า ร้านออซึ่ม ข้าวตามสั่ง, ร้านตามสั่ง เด็กพิเศษหรือคนพิเศษก็ได้ หรืออาจจะมีชื่อภาษาอังกฤษไว้ด้วย Autist,  For All, หรือไปมากกว่านั้น อาจจะเป็น All la carte (มาจากคำว่า A la carte ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า อาหารจานเดียวหรือตามสั่ง ส่วนคำว่า All กำกวมจาก Autism) เพื่อเป็นการจดจำให้ลูกค้าว่าร้านของเรามีพนักงานเป็นออทิสติกจริง ๆ และสื่อถึงว่ากำลังฝึกอาชีพให้พวกเขาด้วย

2. ธีมของร้าน โทนสีของร้าน เป็นที่น่าจดจำและสามารถดึงดูดลูกค้ามาให้ได้

                     สืบเนื่องจากข้างบ้าน ด้วยความที่ร้านเป็นแนวความอบอุ่น เรียบง่าย และมีพนักงานเป็นเด็กออทิสติก ควรจะใช้สีแนวอ่อน ๆ เช่นสีส้ม สีเหลือง เพื่อตัดกับสีแดง จริงอยู่เป็นสีที่เหมาะกับร้านอาหาร เพราะสามารถดึงดูดได้ แต่ในขณะเดียวกันแสดงถึงความร้อนแรง มีผลงานวิจัยอาจจะมีผลกับเด็กออทิสติกได้ในเรื่องของอารมณ์รุนแรง วู่วาม แต่ในอีกแง่หนึ่งอาจจะทำให้เกิดความกระตือรือร้น แต่ไม่ควรใช้สีฟ้า เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่มักจะไม่ใช้โทนสีนี้ในธีมนั่นเอง แต่แนะนำเป็นสีเขียวจะดีกว่าเพราะนอกจะสงบอารมณ์ได้แล้ว ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้ทานข้าวท่ามกลางป่าเขา แถมมองแล้วสดชื่นอีกด้วย หรืออาจจะตกแต่งวอลเปเปอร์ด้วยลวดลายจากสีเหล่านี้ก็ได้

3. รายละเอียดในการตกแต่งเพิ่มเติม นำสิ่งของที่เกี่ยวของมาตกแต่ง เพื่อให้เข้ากับธีมของร้านนั่นเอง

                     รายละเอียดในการตกแต่งเพิ่มเติม คือ การตกแต่งด้วยวัสดุต่าง ๆ ตามสิ่งของในร้าน สมมุติว่า เอาชื่อร้าน All la carte ภายในร้านส่วนแรกคือบริเวณเคาน์เตอร์อาจจะสร้างจากการก่ออิฐแล้วฉาบปูน หรือทำจากไม้ อาจจะตกแต่งด้วยภาพวาดภาพเขียนแบบน่ารัก ๆ เรียบง่าย เช่นตัวการ์ตูน ภาพดอกไม้กราฟฟิก  เพราะตามที่บอกเนอะ เราเลือกธีมอบอุ่น

ส่วนโต๊ะเก้าอี้อาจจะเป็นแบบไม้ ทาทับด้วยสีขาวอาจจะเขียนด้วยรูปดอกไม้หรือต้นไม้สีเขียว ก็ได้ ส่วนผนังของทางร้านอาจจะประดับด้วยกรอบรูปผลงานศิลปะจากฝีมือเด็กออทิสติก หรือเป็นประติมากรรมก็ได้ ถ้าชอบความแปลกใหม่อาจจะตกแต่งด้วยงานฝีมือจากเด็กออทิสติก เช่น ตะกร้าเคดูพาจ, ตุ๊กตาจากเปลือกข้าวโพด กล่อง DIY จากแผ่นโมเสค และดอกกุหลาบจากใบเตย

4. การตั้งชื่อหรือสูตรเมนูอาหารที่ไม่เหมือนใคร แต่ทางที่ดีต้องให้สอดคล้องกับชื่อร้านถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นปัจจัยในการจดจำของลูกค้านั่นเอง

                     ในตัวอย่างเราเลือกเป็นร้านอาหารตามสั่ง หลายคนเบื่อเนอะที่ได้ยินแต่ ผัดกระเพราหมูชิ้นหรือสับ ผัดกระเพราไก่ไข่ดาว ผัดคะน้าหมูกรอบ ผัดพริกแกงหมูไก่  ซึ่งหลาย ๆ ร้านก็คงทำกันมาแล้วเนอะ ถ้างั้นเอาอย่างนี้ ผู้เขียนเคยดู Youtube ของศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จังหวัดขอนแก่น เขาสาธิตการผัดมาม่าคาโบนาร่า

ถ้าผู้เขียนเป็นเจ้าของร้านนะอาจจะทำผัดมาม่าเกาหลี By คนพิเศษ นอกจากจะดูเก๋ไก๋แล้ว ยังดูมีความแปลกใหม่ และไม่ซ้ำใครอีกด้วย เพราะน้อยนักที่จะเอามาม่าประเภทนี้มาอยู่ในเมนูร้านตามสั่ง เพราะซองหนึ่งก็แพงแล้วราคาอยู่ที่ 40 – 50 บาท

                จบไปแล้วนะครับสำหรับการแนะนำ  4 ทริคแต่งร้านยังไงให้ปังปุริเย่ ซึ่งนอกจากเงินทุนของเราที่จะทำให้ร้านเฮง เฮง เฮง แล้วหัวใจสำคัญเลยก็คือการตกแต่งร้านอาหารนั่นเอง

แนะนำ 6 สูตรขัดผิวไหม้แดด ให้ขาวใสไม่กลับมาหมองคล้ำ

แน่นอนว่าแดดประเทศไทยคือทอดไข่สุกได้ แล้วนับประสาอะไรกับผิวเรา ที่โดนแดดแผดเผาทำให้ไหม้หมองคล้ำดำกร้านโลชั่นกันแดดก็เอาไม่อยู่ เพราะฉะนั้นการสคลับผิวหรือขัดผิว เป็นการผลัดเซลผิวที่ตายแล้วออกเพื่อเผยผิวขาวกระจ่างใสอีกครั้ง วันเราจึงหยิบเอา 6 สูตรขัดผิวไหม้แดด ให้ขาวใสไม่กลับมาหมองคล้ำ จากสมุนไพรมาแจกสำหรับสาว ๆ ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดบ่อย ๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะแสบผิว ผิวบาง เพราะเป็นสูตรบำรุงไปในตัวด้วย สาว ๆ ไปดูกันเลยว่ามีสูตรอะไรบ้าง